The History of Arranged Marriagesประวัติศาสตร์ของการคลุมถุงชน
ประวัติศาสตร์ของการคลุมถุงชน
“คลุมถุงชน” คือการแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นโดยที่ผู้ที่ตัดสินใจในการเข้าพิธีหากใช่ตัวบ่าวสาว แต่เป็นทางพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย การคลุมถุงชนนั้นเป็นการสมรสที่ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความรักดังเช่นการแต่งงานปกติ หากแต่เป็นการแต่งงานเพื่อเอื้อประโยชน์ในทางใดทางหนึ่งจากครอบครัวของคนทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความมั่งคั่ง ขยายอำนาจอิทธิพล หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
แม้ปัจจุบัน การคลุมถุงชนจะจางหายไปจากสังคมในประเทศไทย แต่ในสมัยโบราณนั้นก็มีปรากฏไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เช่นกัน โดยมีบันทึกจากพ่อค้าชาวฮอลันดาที่ชื่อ โยส เซาเต็น ได้บันทึกไว้ในช่วงสมัยอยุธยาว่า การแต่งงานในสยามนั้นมีหลากหลาย สำหรับผู้ที่มีฐานะทางสังคมแล้ว การแต่งงานต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ เพื่อนฝูง และต้องมีการแลกของมีค่ากัน โดยไม่เน้นในเรื่องของพิธีทางศาสนา แต่จะเน้นในเรื่องของงานมหรสพ และงานเลี้ยงรื่นเริงเสียมากกว่า
ค่านิยมการคลุมถุงชนนั้นลดจางลงไป จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “การดูตัว” ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่าการสมรสแบบกึ่งคลุมถุงชน โดยที่ผู้ปกครองของบ่าวสาวเป็นฝ่ายชักนำบุคคลมาให้ดูตัว จากนั้นหากชอบพอกันก็จะให้หนุ่มสาวเป็นฝ่ายดำเนินการต่อกันเอง ซึ่งวิธีนี้นั้นในปัจจุบันยังคงเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน และประเทศต่างๆ ในเอเชีย เช่น จีน และญี่ปุ่น รวมถึงในทางประเทศแถบละตินอเมริกา และแอฟริกาบางส่วน
แต่ก็ใช่ว่าการคลุมถุงชนนั้นเบาบางลงแล้ว เพราะในประเทศอย่างอินเดียนั้น การคลุมถุงชนยังคงเป็นเรื่องที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป และปฏิบัติกันอย่างจริงจัง โดยมีการสำรวจในปี 2013 พบว่าหนุ่มสาวชาวอินเดียรุ่นใหม่กว่า 74% ยังคงสนับสนุนในการแต่งงานแบบคลุมถุงชน และ 90% ของการแต่งงานในอินเดียนั้น ล้วนเป็นการคลุมถุงชนทั้งนั้น เมื่อดูจากสถิติการหย่าร้างแล้ว กลับพบว่าอัตราหย่าร้างในประเทศอินเดียมีเพียง 1% เท่านั้น
สำหรับรากศัพท์ของคำว่า “คลุมถุงชน” นั้น สันนิษฐานว่าเกิดจากการชนไก่ โดยในอดีตการนำไก่ไปบ่อนเพื่อชน จำต้องหาผ้ามาคลุมไก่เพื่อป้องกันไม่ให้ไก่ตื่นตกใจ เมื่อถึงบ่อนจึงเปิดออกเพื่อเปรียบไก่และชนกัน แต่บางคนก็ใจร้อนท้าชนตั้งแต่ยังไม่เปิดถุงดูรูปร่าง จึงเหมือนการคลุมถุงชนที่ไม่ดูหน้าค่าตาอีกฝ่ายกันก่อน ก็ตกลงให้เกี่ยวดองกันเสียแล้ว
Location: 15/1 ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
https://goo.gl/maps/1462JWNLCSiKnCnD7
#freesiadelamour #grandopening #weddingdress #2023SS #bangkok
สอบถามรายละเอียด-ปรึกษาและโปรโมชั่นได้ที่
Tel: (+66) 065-812-5185
website: https://freesiawedding.com
IG: @freesiadelamour
FB: @freesiadelamour
E-mail: biz@freesiawedding.com
Line: https://lin.ee/TEk3tVj
The History of Arranged Marriages
“Arranged marriages” is a type of wedding where the ones who decide the ceremony are not the couples themselves, but the parents of both. Mostly, arranged marriages are not formed from love, but conducted for benefits for one or both couple’s families. It can come in the form of wealth, authority, and political benefit.
Though nowadays, arranged marriages are barely a thing in Thailand’s society, in the old times, there were some records about arranged marriages. From the journey of Joost Schouten, a Holland’s merchant in the Ayutthaya period, stated that wedding ceremonies in Siam were various. For high status people, marriages had to be approved by parents and friends. And had to exchange valuable assets to each other. They did not focus on religious ceremonies, only parties and feast.
Presently, arranged marriages have reformed into something much softer that is called “blind date”. Blind dating will be arranged by both of the couple’s parents, so that both of the man and woman can see and get to know each other. But, after that, it will be up to them to develop their relationship, if they both feel the same. This method is popular among Thai-Chinese families and other countries like China, Japan, Latin America and Africa.
However, arranged marriages are still intense in some countries like India. They still conduct and are willing to do so as the study in 2013 showed that teenagers more than 74% are okay with arranged marrying and 90% of marriages in India are arranged. Moreover, the statistic in India showed that the divorce rate of Indians is only 1%
For the word “คลุมถุงชน” (Klum-thung-shon) translated as “covered to encounter” in Thailand, it was originally formed from playing rooster fights. In the old time, people would cover their roosters with fabric before bringing them to the fighting pit, so that the roosters wouldn't freak out. The word was then developed and used in the term of arranged marriages up to these days.
